Line และ Yahoo! Japan ประกาศควบรวมกิจการกันแล้ว คาดเสร็จตุลาคม 2020

Z Holdings บริษัทลูกของ Softbank เจ้าของ Yahoo! Japan ได้ตัดสินใจทำข้อตกลงกับบริษัท Naver บริษัทอินเทอร์เน็ตผู้ก่อตั้ง LINE ในการควบรวมกิจการกันระหว่าง Yahoo! Japan และ LINE Corporation ตามแผนการควบรวมนั้นบริษัท Z Holdings จะเป็นฝ่ายเข้าซื้อกิจการของ LINE จากนั้นบริษัท SoftBank และ Naver จะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่โดยจะมีทั้ง 2 บริษัทจะถือหุ้นรายละ 50% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2020 เนื่องจาก LINE เป็นบริษัทอยู่ในตลาดหุ้นอเมริกาต้องทำการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยคืนทั้งหมดก่อน การรวมตัวกันครั้งนี้นอกจากจะช่วยขยายฐานผู้ใช้ได้มากขึ้นจะเป็นการช่วยให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ดียิ่งขึ้นโดยมีเป้าหมายในการรวมกันครั้งนี้คือ “หนึ่่งในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำของโลก” ใช้ AI กับการตลาดอีคอมเมิร์ซและการชำระเงินดิจิทัล ปัจจุบัน LINE มีผู้ใช้งานมากถึง 82 ล้านคนทั่วโลกส่วน Yahoo! Japan มีผู้ใช้งาน 50 ล้านคน

Apple Credit Card ถูกสอบสวนกรณีกีดกันทางเพศ หลังให้วงเงินผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

อัลกอริทึมของ Apple Card ถูกหน่วยงานด้านการเงินของรัฐนิวยอร์กสอบสวน หลังมีผู้ร้องเรียนว่า แอปเปิ้ล การ์ดเป็นบัตรที่เลือกปฎิบัติทางเพศ ประเด็นเกิดจากทวิตของ David Heinemeier Hansson(DHH) ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ของบริษัท เบสแคมป์ ในสหรัฐ ที่โพสต์ข้อความว่า “Apple Card มีการเลือกปฏิบัติทางเพศ ทั้งๆที่ตัวเขาและภรรยา แต่งงานกันมานานทำธุรกรรมต่างๆร่วมกันรวมทั้งเงินที่มีตอนนี้ก็ถือเป็นสินสมรสระหว่างกันแต่อัลกอริธึมของแอปเปิ้ลยังคิดว่าตัวผมควรได้วงเงินมากกว่าภรรยาถึง 20 เท่า” หลังจากโพสต์ได้ไม่นานก็มีผู้คนเข้ามาวิจารณ์บัตรเครดิต แอปเปิ้ล การ์ด เรื่อยๆและหนึ่งในนั้น คือ Steve Wozniak ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Apple ที่ได้รับเงินเงินมากกว่าภรรยา 10 เท่าเช่นกันทั้งที่มีทรัพย์สินและบัตรเครดิตร่วมกัน ด้านนาย Andrew Williams โฆษกของบริษัท โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าทางบริษัทตัดสินใจเกี่ยวกับการให้วงเงินบัตรเครดิดขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของลูกค้า ไม่ใช่เพศ เชื้อชาติ อายุ รสนิยมทางเพศ หรือเกณฑ์อื่นๆ ที่ผิดกฎหมายแม้ทางบริษัทได้เพิ่มวงเงินในทันทีโดยไม่ขอเอกสารอะไรเลยให้กับภรรยาของ เดวิด ไฮน์ไมเออร์ แฮนส์สัน แต่ทางสำนักบริการด้านการเงินของรัฐนิวยอร์กจะสอบสวนว่า การออกบัตรเครดิตดังกล่าวละเมิดกฎหมายของรัฐนิวยอร์กหรือไม่ และจะสร้างความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าเพศใด

ปิดเว็บหนังเถื่อน! Movie2free ถูกปิดตัวลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Movie2free เว็บไซต์หนังเถื่อนที่มีคนไทยเข้าชมมากที่สุดถูกปิดตัวลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังสมาคมผู้สร้างหนังสหรัฐอเมริกา (MPA) ได้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่าถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ภายหลังจากการตรวจสอบพบว่ามีภาพยนต์ไทยและภาพยนต์ต่างประเทศถูกละเมิดลิขสิทธิ์มากกว่า 3,000 เรื่องมีการติดป้ายแบนเนอร์หน้าเว็บไซต์และโฆษณาพนันออนไลน์แบบเล่นวิดีโอโฆษณาก่อนเข้าชมภาพยนตร์ประมาณ 25 เว็บไซต์มีรายได้รวมทั้งหมดประมาณ 5 ล้านบาทต่อเดือน โดยเว็บนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2557 มียอดชมประมาณ 800,000 – 900,000 IP Address ต่อวันยอดวิววันละประมาณ 10 ล้านวิว ถือเป็นเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศไทยและเป็นอันดับต้นๆของโลก ล่าสุดกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้ทำสืบสวนจนทราบตัวเจ้าของเว็บไซต์เป็นชายไทยอายุประมาณ 30 ปีเคยมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศและสามารถจับผู้ดูแลเว็บไซต์(Admin)ได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งเป็นชายวัยรุ่นอายุ 22 ปี ขณะกำลังทำงานดูแลเว็บไซต์ movie2free.com ทำให้ตอนนี้เว็บไซต์ movie2free.com ถูกปิดตัวลงเป็นที่เรียบร้อยรวมทั้งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิดและเครือข่าย ทั้งการดำเนินคดีอาญาและมาตรการทางภาษี ภายหลังถูกปิด เว็บไซต์ movie2free.com ได้ถูกเปลี่ยนเป็นเว็บรวบรวมศูณย์บริจาคทั่วไทย ที่รวบรวมเว็บไซต์การกุศลและแหล่งบริจาคจากที่ต่างๆ

ยูทูปเปิดบริการใหม่ YouTube Premium และ Youtube Music Premium สามารถดูหนังฟังเพลงได้ต่อเนื่องไร้โฆษณากวนใจ

ทางยูทูปได้เปิดตัว YouTube Premium และ Youtube Music Premium บริการสตรีมมิ่ง (Streaming) ฟังเพลงและชมวีดีโอแบบไม่มีโฆษณาคั่น โดยไม่ต้องเปิดหน้าแอปพลิเคชันค้างไว้ตลอดเวลา สำหรับบริการ YouTube Premium ทำให้เราสามารถชมคลิปวิดีโอต่างๆ บน YouTube ได้ทุกคลิปแบบไม่มีโฆษณาแลพยังสามารถเปิดแอปพลิเคชันอื่นได้โดยที่เสียงยังไม่ดับ รวมทั้งยังสามารถโหลดวิดีโอเก็บไว้ดูแบบออฟไลน์ได้ไม่จำกัด หากสมัครเป็นสมาชิก YouTube Premium แล้วจะได้รับสิทธิเป็นสมาชิก YouTube Music Premium ฟรีโดยอัตโนมัติ ซึ่ง YouTube Music จะมีความแตกต่างแอปพลิเคชันสตรีมมิงเพลงอื่นๆด้วยกัน 6 ข้อได้แก่ 1. มีทุกอย่างครบจบในที่เดียว มีเพลงและอัลบั้มอย่างเป็นทางการของหลากหลายศิลปินรวมทั้ง ซิงเกิ้ล เพลงรีมิกซ์ ผลงานการแสดงสดและเพลงคัฟเวอร์ 2.มีแนะนำเพลงที่เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งส่วนนี้ระบบ AI จะเลือกแนะนำเพลงจากพฤติกรรมการใช้งานของเรา 3.มีเพลย์ลิสต์หลายพันรายการให้เลือก หากนึกไม่ออกอยากฟังเพลงอะไรหรือกำลังมองหาฟังเพลงใหม่ๆ ทาง YouTube Music มีแนะนำกว่าพันเพลย์ลิสต์ให้ฟังไม่ว่าจะเป็น ไทยป็อปฮอตฮิต, ไทยฮิปฮอปฮอตฮิต, ลูกทุ่งฮอตฮิต 4.การค้นหาเพลงแบบอัจฉริยะ หากจำชื่อเพลงไม่ได้แต่จำเนื้อร้องได้บางส่วน ก็สามารถใช้เนื้อร้องนั้นค้นหาเพลงได้เลย […]

3 วิธีแก้ปัญหาการลงโฆษณาใน Facebook แล้วยอดขายน้อย

การตลาดบน Facebook คือหนึ่งช่องทางการตลาดที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก มีพ่อค้าแม่ค้าหลายคนลองผิดลองถูกอยู่กับการขายบน Facebook และมีหลายคนกำลังประสบปัญหาลงโฆษณาขายของใน Facebook มียอดไลค์ยอดแชร์และยอดเข้าถึงมากมาย แต่กลับมียอดขายค่อนข้างน้อย ซึ่งปัญหาตรงนี้พบเจอเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุเกิดจากอะไรบ้างและมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรเรามาดูกัน วิธีแก้ปัญหาการลงโฆษณาใน Facebook แล้วยอดขายน้อย 1. วางกลุ่มเป้าหมายให้แคบ เป็นปัญหาหลักเลยถ้าเราวางกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงหรือวางกลุ่มเป้าหมายกว้างจนเกินไป ทำลูกค้าที่เห็นโฆษณาของเราอาจเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้สนใจสินค้าเราเลย ซึ่งเป็นการเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ก่อนอื่นเราควรต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือคนกลุ่มไหน เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการลงโฆษณาได้โดยแบ่งเป็น กำหนดตามตำแหน่งที่ตั้ง : เป็นการกำหนดให้คนที่อยู่ในพื้นที่นั้นเห็นโฆษณาของเรายกตัวอย่างเช่น เราขายของที่ขายอยู่ในประเทศเราเลือกตำแหน่งที่ตั้งเป็น ประเทศไทย อายุ : ช่วงอายุมีผลกับสินค้าที่เราจะวางขาย หากขายสินค้าที่เน้นกลุ่มคนทำงาน เราควรกำหนด 25-35 เพศ : ยกตัวอย่างหากเราขายสินค้าประเภทกระโปรงเราก็ควรโฟกัสไปที่ผู้หญิงเป็นหลัก แต่หากสินค้าที่เราวางขายที่สามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิงเราสามารถเลือกได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง การกำหนดเป้าหมายแบบละเอียด : เลือกตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างหากสินค้าเป็นสมาร์ทวอทช์ นาฬิกาออกกำลังกาย เราอาจเลือกคนที่ชอบออกกำลังกาย ชอบวิ่ง สวนสาธารณะ ชอบไปฟิตเนส หรือกำลังลดน้ำหนัก 2.”โปรโมทสินค้า” มากว่าการโฆษณาแบบ “โปรโมทร้าน” การโปรโมทโพสต์(สินค้า)ในเพจของเราไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราได้เลือกไว้ จะเป็นการเพิ่มยอดขายและยอดไลค์เพจไปในตัว ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการลงโฆษณาแบบ โปรโมทเพจ(ร้านค้า) เพราะการโปรเพจเราได้ยอดไลค์ก็จริง แต่ยอดไลค์ที่ได้มาจะเปลี่ยนเป็นยอดซื้อรึเปล่าต้องลุ้นอีกที […]

13 สาเหตุที่ทำให้วิดีโอของคุณถูกแบนจาก Youtube

Youtube แพลตฟอร์มวีดีโอออนไลน์ที่ได้ความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งจาก Google เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ใช้สามารถเข้าดูวีดีโอต่างๆพร้อมทั้งเป็นผู้อัปโหลดวีดีโอผ่านยูทูบได้ฟรี มียอดเข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 27,000,000 ต่อเดือน ส่วนหนี่งที่ทำให้ Youtube ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจากการมีวีดีโอใหม่ๆน่าสนใจอัพอยู่เรื่อยๆ ซึ่งผู้ที่อัพวีดีโอจะได้รายได้จากการติดโฆษณาและยอดวิวผู้เข้าชม จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่จะเห็นยูทูปเบอร์เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ แต่การอัพวีดีโอขึ้น Youtube นั้นไม่ใช่ว่าใครจะอัพอะไรก็ได้ หากต้องการอัพวีดีโอต้องให้อยู่ในกฎเกณฑ์หัวข้อควรปฏิบัติ หากมีผู้ใช้งานไม่ปฏิบัติตามกฎข้อกำหนดจะถูกแบนจากยูทูบ ซึ่งในเรื่องนี้ทาง Youtube เข้มงวดมากโดยเฉพาะเรื่องวีดีโอติดลิขสิทธิ์ ส่วนสาเหตุมีอะไรบ้างที่ทำให้วีดีโอของคุณถูกแบนเรามาดูกัน 13 สาเหตุที่ทำให้วิดีโอของคุณถูกแบนจาก Youtube มีภาพเปลือยหรือเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ เนื้อหาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความพึงพอใจทางเพศ รวมทั้งวัตถุที่อาจทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือให้โทษ เนื้อหาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการใช้ความรุนแรงหรือส่งเสริมกิจกรรมที่อันตรายหรือผิดกฎหมาย เนื้อหาแสดงความเกลียดชัง เนื่อหาที่สนับสนุนเนื้อหาที่ส่งเสริมหรือสนับสนุนความรุนแรงต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอันเนื่องมาจากเชื้อชาติหรือถิ่นกำเนิด ศาสนา ความทุพพลภาพ เพศ สัญชาติ สถานะทหารผ่านศึกและรสนิยมทางเพศ วีดีโอที่มีเนื้อหารุนแรงมีการนองเลือด วีดีโอที่ทำให้ตกใจ สะเทือนอารมณ์ หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร การโพสต์วีดีโอและโพสต์ความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ จนถูกผู้ใช้คนอื่นรายงาน การสแปม สแกมและการโพสหัวข้อที่ทำให้เข้าใจผิด ไม่ว่าจเป็นการแท็กชื่อ หรือภาพขนาดย่อที่ไม่ตรงกับเนื้อหาวีดีโอทำให้ผู้ใช้คนอื่นเข้าใจผิด การโพสวีดีโอที่มีเนื้อหาข่มขู่ คุกคาม ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมการขโมย การคุกคาม การขู่เข็ญ การล่วงละเมิด การข่มขู่และการล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว โพสต์วีดีโอเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น สาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่โดนกันมากที่สุด ซึ่งมาจากการโพสต์วีดีโอที่คุณไม่ได้สร้างขึ้นหรือใช้วิดีโอของบุคคลอื่นที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจจะเป็นเพลงและภาพยนต์เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุลคล […]

Email Marketing การตลาดด้วยอีเมลที่มักถูกมองข้าม

E-mail เป็นหนึ่งในช่องทางการติดต่อสื่อสารยอดนิยมที่ยังใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน โดนเฉพาะการติดต่อสื่อสารด้านธุรกิจ แต่การทำตลาดด้วยอีเมล(Email Marketing) กลับเป็นสิ่งที่มักถูกมองข้าม หลายคนอาจะไม่ชอบวิธีทำการตลาด Email Marketing เพราะรู้สึกว่าการทำตลาดแบบนี้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากน่ารำคาญ แต่หารู้ไหมว่าการทำตลาดแบบนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง สามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าและสร้างลูกค้ารายใหม่ได้ การทำตลาดด้วยอีเมลนั้นจำเป็นต้องมีเทคนิคนิดหน่อยเพื่อผลตอบรับที่ดีขึ้น หากหัวข้อที่ส่งไปดูไม่น่าสนใจ คนก็จะไม่คลิ๊กเมื่อไม่คลิ๊ก อีเมลที่ส่งไปก็ไม่มีความหมาย ซึ่งเทคนิคที่ทางเราจะแนะนำนั้นมีด้วยกัน 5 หัวข้อส่วนจะมีหัวข้ออะไรบ้างนั้นเรามาดูกัน 5 เทคนิคในการทำ Email Marketing ให้ได้ผลตอบรับที่ดี อีเมลต้องมีที่มาที่ไป หากเขาไม่รู้จักคุณมาก่อนแล้วอยู่ดีๆมีอีเมลจากไหนไม่รู้ส่งมาให้ แน่นอนว่าโอกาสที่เขาจะอ่านอีเมลของคุณจะน้อยลงรวมทั้งอาจทำให้อีเมลที่คุณส่งถูกจัดเข้าใน Folder Spam ของเขาโดยอัตโนมัติอีกด้วย ตั้งชื่อหัวข้อให้ดี หัวข้อที่ดีต้องมีความน่าสนใจ หากคุณสามารถใส่ชื่อของคนได้รับอีเมลเข้าไปด้วยจะเพิ่มความน่าสนใจให้ผู้รับมากยิ่งขึ้น วางกลุ่มเป้าหมาย คุณต้องคิดก่อนว่าเป้าหมายของอีเมลที่คุณส่งเป็นประเภทไหน ให้เขาเปิดอ่านบทความ, การขายของหรือการแจ้งเตือน การมีรูปและลิงก์ การมีรูปภาพและลิงก์นอกจะเพิ่มโอกาสในการคลิ๊กเข้าไปดูมากยิ่งขึ้น ส่งมอบคุณค่าให้กับผู้อ่าน การทำให้ผู้ที่เปิดอ่านอีเมลรู้สึกว่าการเปิดอ่านได้อะไรที่มากกว่าจะทำให้การเปิดอ่านในอนาคตดูดีขึ้น พยายามทำความเข้าใจว่าเขาอยากรู้เรื่องอะไร มากกว่าการที่ทำความเข้าใจตัวคุณเองว่าคุณอยากสื่อสารอะไร การทำการตลาดแบบ Email Marketing จะเห็นผลลัพธ์เร็วซึ่งจำนวนลูกค้านั้นถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ใช้วัดความสำเร็จของธุรกิจ

ธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวเครื่องแลกเงินอัตโนมัติบริการ 24 ชั่วโมง

ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ได้เปิดตัวเครื่องแลกเงินตราต่างประเทศอัตโนมัติ (Automated Currency Exchange Machine) ที่สามารถแลกเงินบาทเป็นเงินต่างประเทศได้ 3 สกุลเงินและแลกเงินต่างประเทศเป็นเงินไทยบาทได้ 12 สกุลเงิน โดยเครื่องนี้เปิดให้บริการที่ชั้น B1 สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ สุวรรณภูมิ ตลอด 24 ชั่วโมง ตู้แลกเงินตราต่างประเทศอัตโนมัติ สามารถแลกเงินตราต่างประเทศได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐฯ(USD), ยูโร(EUR), เยน(JPY) ส่วนเงินต่างชาติสามารถแลกเป็นบาทได้ ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐฯ(USD), ยูโร(EUR), เยน(JPY), ปอนด์(GBP), ดอลลาร์ออสเตรเลีย(AUD), ดอลลาร์สิงคโปร์(SGD), หยวน(CNY), ดอลลาร์ฮ่องกง(HKD), วอนเกาหลีใต้(KRW), ดอลลาร์ไต้หวัน(TWD), ริงกิต(MYR)และฟรังสวิสเซอร์แลนด์(CHF) โดยสามารถแลกได้ครั้งล่ะไม่เกิน 30,000 บาทและไม่เกิน 99,999 บาทต่อคนต่อวัน

Huawei เตรียมวางตำหน่ายแว่นตาอัจฉริยะ Huawei x Gentle Monster Smart Eyewear เร็วๆนี้

หัวเว่ย ได้ร่วมมือกับ Gentle Monster แบรนด์แว่นตาแฟชั่นชั้นนำจากประเทศเกาหลีเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ(Smart Eyewear) Huawei x Gentle Monster ที่สามารถใช้ฟังเพลงหรือใช้รับสายโทรศัพท์ได้เพียงแค่แตะตรงบริเวณขาของแว่นตาเท่านั้น โดยคาดว่าราคาและวันวางจำหน่ายจะถูกประกาศในเร็วๆนี้ จุดเด่นของแว่นตา Huawei x Gentle Monster นอกจากมีดีไซน์การออกแบบที่ดูดีทันสมัยแล้วยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบ EMUI 10 ช่วยให้คุณสามารถรับสายโทรศัพท์และควบคุมการเล่นเพลงได้ โดยตัวแว่นตาจะมีลำโพงแบบ Dual Semi-Open Speakers ที่ติดตั้งอยู่ภายใน มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ทำงานร่วมกับไมโครโฟนที่อยู่บริเวณขาแว่นตา ให้คุณได้คุยกันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวแว่นตายังมีเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับว่าผู้ใช้สวมใส่อยู่หรือไม่ และสามารถหยุดเล่นเพลงชั่วคราวได้ด้วยการถอดแว่นและเพลงจะเล่นต่อโดยอัตโนมัติเมื่อสวมแว่นกลับไปอีกครั้ง สเปคและข้อมูลต่างๆที่น่าสนใจของแว่นตาอัจฉริยะ Huawei x Gentle Monster มีดังนี้ ดีไซน์ถูกออกให้ดูดีทันสมัยโดย Gentle Monster แบรนด์แว่นตาชั้นนำจากเกาหลี ชุดควบคุม ไมโครโฟนและลำโพงไว้ ถูกติดตั้งไว้ที่ขาแว่นตา สามารถป้องกันละอองฝุ่นและละอองน้ำที่ระดับ IP67 สามารถควบคุมด้วยการแตะที่โคนขาแว่น มีเซนเซอร์ตรวจจับการใส่แว่น แว่นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 2 ชั่วโมงครึ่ง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง กระเป๋าแว่นจะเป็นแท่นชาร์จไร้สายในตัว(Wireless) มีแบตเตอรี 2,200 mAh กระเป๋าแว่นมีเซนเซอร์เช็คว่าแว่นตาใส่เข้าที่หรือไม่โดยหลอดไฟสีเขียวในกระเป๋าแว่นจะติดเมื่อใส่พอดี

Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทวอตช์รุ่นใหม่ Haylou LS01 ราคาไม่เกิน 500 บาท

Xiaomi ได้ทำเรื่องเขย่าวงการสมาร์ทวอร์ตช์ครั้งใหญ่ เมื่อบริษัทเปิดตัวสมาร์ทวอตซ์รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อรุ่น Haylou LS01 ที่มีฟีเจอร์ครบครันในราคาไม่ถึง 500 บาท สมาร์ตวอตช์ Xiaomi Haylou LS01 มาพร้อมกับฟีเจอร์ครบครันที่ครอบคุมทุกการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นการทำงานรับสายเรียกเข้า, รับข้อความแจ้งเตือนต่างๆ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ,ตรวจจับการนับเก้าเดิน, ตรวจจับการนอนและการบันทึกกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังที่มีให้เลือกถึง 9 โหมดด้วยกันโดยจะเชื่อมต่อกับแอป Haylou Sport  ด้านดีไซน์ ตัวหน้าปัดเป็นทรงสี่เหลี่ยม หน้าจอเป็นแบบ LCD ขนาด 1.3 นิ้วมีความละเอียด 240 x 240 พิกเซล ตัวเครื่องมีขนาด 40.9 มิลลิเมตร x 35.7 มิลลิเมตร x 11.6 มิลลิเมตร หนักเพียง 34 กรัม สายวัสดุเป็น ซิลิโคนกว้าง 26.3 มิลลิเมตร แบตเตอรี่ 210 mAh โดยสามารถใช้งานได้นานถึง 14 วัน รองรับทั้ง iOS (iOS […]

1 2 3 4 5 6 12