technology

Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทวอตช์รุ่นใหม่ Haylou LS01 ราคาไม่เกิน 500 บาท

Xiaomi ได้ทำเรื่องเขย่าวงการสมาร์ทวอร์ตช์ครั้งใหญ่ เมื่อบริษัทเปิดตัวสมาร์ทวอตซ์รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อรุ่น Haylou LS01 ที่มีฟีเจอร์ครบครันในราคาไม่ถึง 500 บาท สมาร์ตวอตช์ Xiaomi Haylou LS01 มาพร้อมกับฟีเจอร์ครบครันที่ครอบคุมทุกการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นการทำงานรับสายเรียกเข้า, รับข้อความแจ้งเตือนต่างๆ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ,ตรวจจับการนับเก้าเดิน, ตรวจจับการนอนและการบันทึกกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังที่มีให้เลือกถึง 9 โหมดด้วยกันโดยจะเชื่อมต่อกับแอป Haylou Sport  ด้านดีไซน์ ตัวหน้าปัดเป็นทรงสี่เหลี่ยม หน้าจอเป็นแบบ LCD ขนาด 1.3 นิ้วมีความละเอียด 240 x 240 พิกเซล ตัวเครื่องมีขนาด 40.9 มิลลิเมตร x 35.7 มิลลิเมตร x 11.6 มิลลิเมตร หนักเพียง 34 กรัม สายวัสดุเป็น ซิลิโคนกว้าง 26.3 มิลลิเมตร แบตเตอรี่ 210 mAh โดยสามารถใช้งานได้นานถึง 14 วัน รองรับทั้ง iOS (iOS […]

มีฟีเจอร์ใหม่! Instagram เพิ่มฟีเจอร์ “On This Day” แบบเดียวกับ Facebook ใน Stories

ทางอินสตาแกรมได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ “On This Day” ฟีเจอร์ที่จะทำให้คุณได้เห็นเรื่องราวต่างๆที่ผ่านของคุณในวันเดียวกันของทุกๆปี ซึ่งหลายๆคนอาจเคยสัมผัสฟีเจอร์แบบนี้มาบ้างแล้วใน Facebook ทาง Instagram ได้เพิ่มฟีเจอร์ “On This Day” ใน Stories โดยจะแสดงภาพโพสต์กิจกรรมต่างๆที่คุณเคยทำของวันนี้ในอดีต ให้คุณสามารถแชร์ให้เพื่อนของคุณได้เห็นรำลึกถึงวันเก่าๆที่ผ่านมา โดยสามารถกดที่รูปลูกเต๋าทางด้านบนเพื่อสุ่มดูภาพอื่นๆในอดีตของวันนั้นได้ นอกจากนี้ทาง Instagram ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่โหมด Create ใน Stories ซึ่งคุณจะสามารถเลือกเมนูย่อยต่างๆที่คุณต้องการโพสต์ ซึ่งตัวเลือกต่างจะมีลูกเล่นที่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความ, ตัวเลขนับถอยหลัง, ไฟล์ GIF , คำถาม, แบบทดสอบ,โพลล์ให้เลือกตอบและคำถาม

Shopee ปรับราคาค่าธรรมเนียมใหม่ มีผล 16 ตุลาคมนี้

Shopee ได้ออกมาประกาศปรับเปลี่ยนราคาค่าทำเนียมการให้บริการใหม่ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยมีค่าบริการใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ ค่าบริการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งแต่เดิมค่าธรรมเนียมส่วนโอนผ่านธนาคารนี้ไม่มีการคิดเพิ่ม ค่าธรรมเนียมที่ทาง Shopee ประกาศออกมานี้มีการปรับเปลี่ยนด้วยค่าบริการทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกันได้แก่ ค่าธรรมเนียมการขาย (Sale Transaction Fee) จากเดิมค่าธรรมเนียมการขายสินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ ถูกคิดค่าธรรมเนียมการขาย 1% ของราคาตั้งต้นของสินค้า โดยราคาใหม่เปลี่ยนเป็น 3 % ของราคาตั้งต้นของสินค้าและสินค้าที่ไม่อยู่ในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์จากเดิมถูกคิดค่าธรรมเนียมการขาย 3% ของราคาตั้งต้นของสินค้า โดยราคาใหม่เปลี่ยนเป็น 5 % ของราคาตั้งต้นของสินค้า ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคาร ทั้งแบบโอนผ่านแอพหรือโอนผ่านตู้ ATM จากเดิมไม่คิดค่าบริการตรงนี้5ถูกปรับมาคิดเป็น 2% จากยอดเงินที่ผู้ซื้อต้องชำระ ส่วนค่าบริการอื่นๆยังคงเหมือนเดิมได้แก่ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต คิดค่าธรรมเนียม 2% ของยอดเงินที่ผู้ซื้อต้องชำระบวกค่าขนส่งสินค้าที่ผู้ซื้อชำระเงิน (จะคิดจากราคาหลังใช้โค้ดส่วนลดและ Shopee Coin) ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตแบบผ่อนชำระ คิดค่าธรรมเนียม 5% ของยอดเงินที่ผู้ซื้อต้องชำระ (จะคิดจากราคาหลังใช้โค้ดส่วนลดและ Shopee Coin)(2% จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต และ 3% จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมแบบผ่อนชำระ) ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมแบบชำระเงินปลายทาง คิดค่าธรรมเนียม 2% ของยอดที่ผู้ซื้อต้องชำระบวกค่าขนส่งสินค้า ที่ผู้ซื้อเลือกชำระเงินปลายทาง (จะคิดจากราคาหลังใช้โค้ดส่วนลดและ Shopee Coin)

บริการ Google One คืออะไรต่างจาก Google Drive หรือไม่เรามาดูกัน

บริการ Google One และบริการ Google Drive ต่างก็เป็นบริการเก็บข้อมูล Cloud Storage ของ Google ซึ่งหลายๆคนอาจรู้ว่า Google Drive สามารถฝากไฟล์บนออนไลน์ได้ฟรีๆ ซึ่งมีพื้นที่เก็บข้อมูลได้สูงสุดรวมกับ Gmail และ Google Photos ทั้งหมด 15 GB ซึ่งหากเราใช้พื้นที่จนเต็มแล้วทั้ง 15 GB แต่ยังต้องการต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม Google One จะตอบโจทย์ตรงนี้ Google One คือแพ็คเกจพื้นที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์แบบเสียเงิน โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนสามารถเก็บไฟล์เอกสาร วิดีโอ เพลง อีเมลล์ รวมทั้งแบ็กอัพรูปภาพได้ถึง 100 GB นอกจากพื้นที่เก็บข้อมูลได้มากขึ้นแล้วยังมีบริการเสริมช่วยเหลือด้านต่างๆจาก Google Experts ,สามารถแชร์พื้นที่ใช้งานกับเพื่อนได้อีก 5 คน(รวมเราเป็น 6)และได้เครดิตใน Google Play พร้อมสิทธิบริการต่างๆในราคาพิเศษ สำหรับราคาใช้บริการ Google One แบบรายเดือนมีให้เลือกดังนี้ ราคา 70 บาทต่อเดือนมีพื่นที่ 100 GB* […]

Puma จับมือ Fossil เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ที่ใช้ระบบ WearOS เป็นครั้งแรก ตอบโจทย์คนรักการออกกำลังกาย

Puma บริษัทชั้นนำผู้ผลิตสินค้าด้านกีฬาจับมือกับบริษัท Fossil Group บริษัทชั้นนำผู้ผลิตนาฬิกาเปิดตัวนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ Puma Gen 4 Smartwatch ที่ใช้ระบบเป็น Wear OS จาก Google มีให้เลือกด้วยกัน 3 สีได้แก่สี ดำ, เหลืองและทองชมพู สมาร์ทวอทช์ Puma Gen 4 Smartwatch ถูกออกแบบให้เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งานที่ชอบออกกำลังกายเป็นหลัก มีทั้งฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ติดตามการออกกำลังกายและเจ้าด้วยที่สมาร์ทวอทช์ใช้ Wear OS ทำให้มันมีคุณสมบัติพื้นที่อย่างเช่น การชำระเงินด้วย NFC, Google Assistant และอื่นๆ ด้านสเปคของ Puma Gen 4 Smartwatch มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon Wear 3100 จาก Qualcomm มาพร้อมแรมขนาด 512 MB มีพื่นที่จัดเก็บข้อมูล 4 GB หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.19 นิ้วตัวเรือนมีขนาด 44 มิลลิเมตรใช้วัสดุไนลอนผสมกับอลูมิเนียมทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 27 กรัม(0.06 […]

บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ประกาศ​ปิด​ให้บริการ 30 กันยายนนี้! หลังไม่ต่อใบอนุญาติ

บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ได้ออกมาประกาศเตรียมยุติบทบาทการประกอบธุรกิจการให้บริการด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Asset Wallet) เนื่องจากทางบริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในทางอื่นๆจึงไม่มีความประสงค์จะต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2563 อีกต่อไป โดยลูกค้าทุกท่านของทางบริษัทจะไม่สามารถใช้บริการแลกเปลี่ยน(เทรดดิ้ง)และซื้อขายผ่านเว็บไซต์ BX.in.th ได้หลังวันที่ 30 กันยายน 2562 และต้องทำการเปิดคำสั่งถอนเงินออกจากบัญชีก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ทางด้านสำนักงาน​คณะกรรมการ​กำกับ​หลักทรัพย์​และ​ตลาดหลักทรัพย์​ (ก.ล.ต.) ได้ออกมาช่วยเหลือนักลงทุนและให้คำแนะนำด้วยการจัดตั้ง ศูนย์แนะนำช่วยเหลือผู้ลงทุนเฉพาะกิจ โดยสามารถขอคำแนะนำได้ที่ Help Center ของ ก.ล.ต. หมายเลข 1207 กด 7 หรืออีเมล info@sec.or.th 24 ชั่วโมง 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2562 เวลา 6.45 น. เป็นต้นไป หลังจาก BX.in.th เตรียมปิดตัวลงทำให้ตอนนี้ในประเทศไทยเหลือผู้ให้บริการเงินคริปโตในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพียง 3 รายเท่านั้น ได้แก่ bitkub.com, satang.pro,และ coins.co.th

สงครามการค้า! “เกาหลีใต้”ถอดถอนรายชื่อ “ญี่ปุ่น”ออกจากบัญชีขาว พร้อมลดการส่งออกชิป DRAM

สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ค่อนข้างแย่ลง มีข้อขัดแย้งกันหลายประเด็นจนนำไปสู่สงครามการค้า ถึงขนาดที่ประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ถอดชื่อกันและกันออกจากรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า หรือ บัญชีขาว (Whitelist) ความขัดแย้งกันครั้งนี้กระทบเศรษฐกิจด้าน IT อย่างแน่นอน หลังจากก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นได้ออกมาควบคุมการส่งออกวัตถุดิบหลักที่สำคัญต่อกระบวนการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยี ทั้ง Fluorinated Polyimide (หน้าจอแสดงผล), Photosensitising Agent Resist (ชิปประมวลผล) และ Hydrogen Fluoride (สารกึ่งตัวนำ) ซึ่งทั้งสินค้า 3 ชนิดนี้เกาหลีใต้ต้องพึ่งญี่ปุ่นในสัดส่วนสูงมากถึง 90% ล่าสุดเกาหลีใต้ ได้ออกมาตอบโต้ด้วยการลดการส่งออกชิป DRAM ไปยังญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชิ้นชิ้นส่วนสำคัญของสมาร์ทโฟน, พีซีและเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งตลาดโลกกว่า 72.4 % ของชิป DRAM เป็นเกาหลีใต้ที่ส่งออก ด้วยการตอบโต้ครั้งนี้ของเกาหลีใต้น่าจะทำให้ญี่ปุ่นหันไปสั่ง DRAM จากผู้ผลิตเจ้าอื่นอย่าง Micron ผู้ผลิตชิปของสหรัฐอเมริกา

Microsoft กำหนดนโยบายใหม่ หากไม่ Login บัญชี Microsoft Account นานเกิน 2 ปีจะถูกลบอัตโนมัติ

บัญชี Microsoft Account คือบัญชีที่ใช้งานบน Windows10 ไม่ว่าจะเป็น Outlook, Office, Skype, OneDrive, Xbox Live, Bing, Store, Windows หรือ MSN ซึ่งทาง Microsoft ได้กำหนดนโยบายใหม่ หากไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้ Login เป็นเวลามากกว่า 2 ปีบัญชีจะถูกลบอัตโนมัตินับเวลาตั้งแต่ Login ใช้งานครั้งสุดท้าย นโยบายใหม่นี้ยังข้อยกเว้นสำหรับบัญชีที่เข้าเงื่อนไขด้านล่างนี้ ถึงแม้บัญชีนั้นจะไม่ได้ Login เป็นเวลานานถึง 2 ปีก็ตามได้แก่ บัญชีที่มีสถานะ Active ในการซื้อผลิตภัณฑ์หรือเป็นสมาชิกบริการของ Microsoft บัญชี Developer อัปโหลดแอปขึ้น Microsoft Store บัญชีที่ใช้รับ certification จาก Microsof มียอดเงินค้างในบัญชี Microsoft บัญชีเด็กเยาวชน ที่สร้างด้วย Microsoft Family นโยบายใหม่นี้จะมีผลในวันที่ 31 สิงหาคม 2019 เป็นต้นไป หากใครยังอยากคงสถานะการใช้บัญชี […]

Microsoft ประกาศร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนาระบบ AI ร่วมกันพร้อมลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์

ไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศถึงการลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการร่วมมือกับโอเพ่น เอไอ บริษัทพัฒนาเทคโนโลยี AI ในการนำเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย มาให้บริการบน Microsoft Azure โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยของปัญญาประดิษฐ์เป็นสำคัญเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ได้ การร่วมมือกันของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ระหว่างบริษัทโอเพนเอไอและไมโครซอฟท์คอร์ป จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถเร่งความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะการสร้างปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence – AGI) ให้ขยายขีดความสามารถได้มากขึ้นบนแพลตฟอร์ม Azure รวมทั้งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ในอนาคตได้ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนยีที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ Sam Altman ซีอีโอของบริษัท OpenAI (คนทางซ้าย)ได้ออกมากล่าวว่า “การสร้าง AGI ได้สำเร็จจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนยีที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ หน้าที่ของเราคือการทำให้เทคโนโลยี AGI มีประโยชน์ต่อมนุษย์มากที่สุด เราตื่นเต้นที่ไมโครซอฟท์ก็มีวิสัยทัศน์เช่นเดียวกันกับเรา การได้ร่วมมือกับไมโครซอฟท์เพื่อสร้างรากฐานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะเป็นรากฐานที่สำคัญของเราในกาพัฒนา AGI ต่อไป “ Satya Nadella ซีอีโอของบริษัท Microsoft (คนทางขวา)ได้ออกมากล่าวเช่นกันว่า “AI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในยุคสมัยของเราและมีศักยภาพจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆที่สำคัญได้ การรวมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของ OpenAI เข้ากับเทคโนโลยีการคำนวณซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Azure AI ในครั้งนี้ จุดประสงค์ของเราคือการทำให้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ได้และมีความปลอดภัย”

พบกับ Dark mode ใน OUTLOOK email เร็วๆนี้

พบกับ Dark mode ใน OUTLOOK email เร็วๆนี้ ในที่สุด OUTLOOK ก็จะมี Dark mode ไว้ใช้กับเขาเสียที หลังจากที่ผู้ใช้ OUTLOOK email โหวต ให้มี Dark mode และบอกว่า Dark mode จำเป็นต่อ email ของพวกเขาเนื่องจากจะทำให้การมองเห็นนั้นง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น หลังจากที่ Microsoft  ได้ทำการพัฒนาฟีเจอร์นี้เพียงไม่กี่เดือน ล่าสุดก็ได้ประกาศแล้วว่าฟีเจอร์ Dark mode นั้น จะมีมาให้ผู้ใช้ OUTLOOK email ได้ใช้ในเร็ววันนี้ ซึ่งทาง Microsoft ก็ยังไม่ได้ประกาศว่าจะเป็นวันที่เท่าไร แต่รับรองว่าไม่นานเกินรอคร้า อ้างอิง: express 

1 2 3 4